วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2560

พนักงานขี้เกียจ,คนงานสมัยนี้




เข้าสู่ AEC อย่างเป็นทางการในปีนี้เป็นปีแรก นั่นหมายถึงการเปิดกว้างให้ทั้ง 10 ประเทศในอาเชียนได้เชื่อมโยงกันทุกมิติง่ายขึ้น บางคนก็บอกว่าไทยเราจะได้ประโยชน์ บ้างก็บอกว่าไทยจะเสียประโยชน์ อันนี้ก็แล้วแต่มุมมอง และวิธีคิดของแต่ละท่าน

แต่สิ่งที่ผู้ใหญ่รุ่นเราน่าจะเป็นห่วงมากที่สุด คือ คนยุคแรงงานของประเทศ ที่มีจำนวนมากและเป็นตัวขับเคลื่อนประเทศไทย กับไม่ค่อยตั้งใจต่อสู้กับชีวิตและอุปสรรคเท่าที่ควร คนในกลุ่มจัดอยู่ Gen Y ที่อายุ 18-27 ปี ซึ่งเป็นช่วงเริ่มการทำงานครั้งแรกๆในชีวิต มันเป็นเรื่องแปลกของสังคมไทยที่น่าเป็นห่วง ว่าคนในวัยทำงานของเราจะสู่ต่างชาติใน AEC ได้หรือเปล่าเพราะเด็กรุ่นนี้จะถูกพ่อแม่(ซึ่งอยู่ใน Gen X เป็นช่วงที่ลำบากในการทำงาน) จึงอยากให้ลูกสบาย เลี้ยงดูแบบประคบประหงม

พอเด็กรุ่นนี้เข้าสู่การทำงาน ก็อยากจะทำงานอะไรก็ได้ที่สบายๆ ได้เงินเยอะๆ มีวันหยุดวันลามากๆ มีโบนัส มีสวัสดิการดีๆ ซึ่งแตกต่างจากคนต่างชาติที่เข้ามาทำงานในบ้าน เพราะเมื่อประเทศเขาลำบากกว่าเรา การที่เด็กไทยหนักไม่เอา เบาไม่สู้ พวกเขาเหล่านี้จึงมีโอกาสเขามาทำงานในการเราได้อย่างสบาย ทั้งขยัน อดทน ประหยัด สู้ชีวิต เป็นที่ต้องการของเจ้ากิจการต่างๆในไทย ทั้งที่ปัจจุบันการค่าจ้างไม่ได้ต่างอะไรกับคนไทยเลยด้วยซ้ำ แถมบางสาขาอาชีพที่ใช้ฝีมือ หยาดเหนื่อ หรือยากๆหนักๆ ยังได้รับค่าแรงมากกว่าค่าแรงขั้นต่ำอีก

เราจะสังเกตุได้บ่อยครั้งที่ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ และโรงงานต่างๆ มักใช้แรงงานต่างประเทศบ่อย ไม่ใช่เพราะค่าจ้างถูกกว่า แต่เป็นเพราะเขามีความอดทนมากกว่าเด็กไทย

อย่าลืมว่าเด็กไทยเหล่านี้อีก 10-20 ปีข้างหน้า ก็จะมาเป็นผู้ขับเคลื่อนประเทศแทนพวกเรา ช่วยกันบอกพวกเขาว่า ถ้าเรายอมลำบากวันนี้ อดทนให้ได้ในวันนี้ เพียงอีกไม่กี่ปีรับรองเขาก็สบายได้เป็นเจ้าคนนายคน เป็นเจ้าของกิจการที่ยิ่งใหญ่

เคยมีโอากาสได้คุยกับลูกจ้างต่างชาติอยู่กลุ่มหนึ่งที่ทำร้านอาหาร เจ้าของที่เป็นคนไทยรักมาก เพราะขยันเหลือเกิน ร้านอาหารเปิด 8.00 โมง พวกเขาตั้งแต่ตีสี่ ช่วยกันทำกับข้าว เตรียมข้าวของ ล้างจาน จัดโต๊ะ ระหว่างวันก็ช่วยกันดูแลร้าน ตกเย็นเก็บกวาดร้าน ล้างจานชาม ตัดหญ้า ล้างรถให้เจ้า โดยไม่เคยเรียกร้องเงินเพิ่มแต่อย่างใด แล้วแต่เจ้าของจะให้เขา

แต่ทีไหนได้ พอถามไปถามมา เขาก็เล่าให้ฟังว่าที่ทำทั้งหมดทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อเป็นการเรียนรู้ของงานต่างๆทุกส่วน อยากเก่งเร็วๆ วันข้างหน้าจะเป็นเจ้าของร้านอาหารแบบนี้

โดยวิธีคิดและทำงานขยันแบบนี้ เชื่อว่าอีกไม่นานเขาคงได้มาเป็นเจ้าของกิจการอย่างแน่นอน

คำถาม คือ แล้วใครจะเป็นลูกจ้างเขาเหล่านี้แทน?

"หวังว่าคงไม่ใช่เด็กไทย"

มาช่วยรณรงค์ให้เด็กตั้งใจทำงานมากกว่า เพื่อตัวเขาเองจะไม่ลำบากในวันข้างหน้า

***ขอยกตัวอย่างพฤติกรรมการทำงานเหล่าในลดลง น้อยลง***

1.มาทำงานสาย แต่เลิกงานตรงเวลา
2.เปลี่ยนงานบ่อย หางานที่สบายๆ มีเวลาว่างเยอะๆ เงินเยอะๆ
3.อ้างว่าป่วยบ่อย ทั้งที่ไม่เป็นเป็นอะไร ลากิจบ่อย โดยเฉพาะวันจันทร์จะหยุดเยอะสุด
4.ขี้เกียจ เดินไปเดินมา นั่งเล่นโทรศัพท์ โพสรูป เล่นเกมส์ ทำงานไปวันวัน
5.คิดแก้ปัญหาไม่ได้ บางครั้งเรื่องงานง่ายๆไม่สามารถแก้ได้ ทั้งที่เปิด google ดู ก็มีคำตอบอยู่มากมาย
6.ไม่ค่อยร่วมมือกันทำงาน ไม่ให้ความร่วมกับเพื่อนรวมงาน แบ่งฝักแบ่งฝ่าย อคติกับเพื่อนร่วมงาน
7.ผัดวันประกันพรุ่ง ทำงานแบบไม่เต็มที่ จนงานเข้ามาสะสมมากๆ ทำไม่ทัน
8.ชอบสูบบหรี่และดื่มเหล้า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว แต่อย่าให้มีผลกระทบกับงาน อย่างเช่น ไปดื่มมาเมื่อคืนจนไม่สามารถมาทำงานได้
9.ห่วงแต่เรื่องเงินมากกว่างาน บางครั้งยังไม่สามารถทำงานได้บรรลุตามเป้า ก็อยากให้เงินเดือนขึ้นแล้ว ข้อนี้ มีกรณีตัวอย่าง เป็นลูกค้าคนสิงคโปร์ เขาบอกอยากมาอยู่เมืองไทย เลยถามไปว่า อยู่ที่นั่นก็ดีงานดี เงินดี แต่เขาเงินได้เยอะจริง แต่งานต้องทำทั้งวันทั้งคืน แถมต้องกลับมาทำที่บ้าน เหมือนเป็นสองเท่าของคนไทย
10.ทำงานผิดพลาดบ่อย หลายคนทำงานให้แค่ผ่านๆมันไป โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพของงานว่าจะออกมาดีแค่ไหน ทำงานไม่เรียบร้อยให้ลูกค้า อยากให้นึกถึงใจเขาใจเรา ขนาดเราเองไปซื้อเสื้อ ก็อยากได้สวยๆมาใส่

#Mike foodmodel

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น